อัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ให้เวลาแก่เราทุกคนมาเท่ากัน
นั่นคือ แต่ละวันมี 24 ช.ม. เราควรจะได้บริหารเวลาซึ่งเราได้มาเหมือนกับคนอื่น
ให้เหมือนกับคนอื่นที่เขาใช้มันให้หมดไปอย่างมีคุณภาพ อย่างคุ้มค่า
วันหนึ่งของเรา ชั่วโมงหนึ่งของเรา เราควรจะได้จัดตั้งงบประมาณ เพื่อการบริหารให้มีประสิทธิภาพ
เราควรทำอะไรให้เสร็จ สักอย่างหนึ่งในชั่วโมงนี้ และหรือในวันนี้
เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับกันว่า หลายคนเขาบริหารได้เก่งกว่าเรา
เขาเสียเวลาไปเพียงชั่วโมงเดียว เขาดีกว่าเราเสียเวลาไปถึงหนึ่งวัน
เขาทำอย่างไร ? เขาก็คนเราก็คน เป็นเรื่องที่คนอย่างเราจะปฏิเสธที่จะคิดในจุดนี้ไม่ได้
เวลาที่เราได้มาก็เท่ากับเวลาที่เราสูญไป เพราะวันตายนั้นเป็นกำหนดการที่แน่นอน
ดังอัล-กุรอาน กล่าวว่า
ความว่า "เมื่อพวกเขาถึงกำหนดแห่งความตาย
พวกเขามิอาจประวิงมันหรือต่อเวลามันออกไปได้แม้เพียงประเดี๋ยวเดียว
และพวกเขาก็มิอาจให้มันเกิดขึ้นก่อนกำหนดการ ดังได้กล่าวแล้วได้แม้เพียงประเดี๋ยวเดียว"
ดังนั้นหากเราถูกกำหนดการตายไว้ในวันศุกร์หน้า
เมื่อเรายังอยู่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันเสาร์แปลได้ความว่า อายุของเรายาวกว่าวันนี้อีกหนึ่งวัน
นั่นคือเราได้อายุเพิ่มมาอีกหนึ่งวัน กล่าวคืออายุของเราลดน้อยไปอีกหนึ่งวัน
มันเป็นสิ่งที่ให้แง่คิดแก่เราว่า เราควรจัดการอย่างไรกับมันจึงจะเป็นประโยชน์
หรือจึงจะเป็นการได้มามากกว่าเสียไป แม้ความจริงมันจะเป็นทั้งได้และเสีย
สอดคล้องกับแง่คิดที่ว่า ลมมันจะพัดไปทางใดนั้น เราจะบ่ายเบนมันไปพัดทางอื่นไม่ได้
แต่เราสามารถดัดหรือโน้มใบเรือให้เรือแล่นไปทางไหนก็ได้ แม้จะให้มันวิ่งทวนลม
เวลาเป็นสิ่งสำคัญ เป็นของมีค่า เป็นสิ่งที่เราจะเก็บกักตุนไว้เพื่อใช้ในอนาคตเหมือนสิ่งของอื่น
ๆ ไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ไม่มีใครหรอกที่จะฆ่าสิ่งที่ตนเองยอมรับว่าสำคัญ
นอกจากคนโง่เท่านั้น มีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่ฆ่าเวลาของตัวเอง ปล่อยให้มันผ่านไปได้ไม่เก็บกอบเอาผลประโยชน์ที่มันมาหยิบยื่นให้มันนำมาให้ถึงตัวเราเลยไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน
เวลามีทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เราต้องเป็นผู้ที่ก้าวไปพร้อมกับมันอย่างมีข้างหลังที่งดงาม
เวลาที่เป็นของเราแล้ว เราแก้ไขไม่ได้แล้ว
แต่เวลาที่กำลังจะเป็นของเรา หมายถึงเวลาในอนาคตนั้น หากเรามีการเตรียมตัวเตรียมใจ
มีการวางแผนล่วงหน้าเอาไว้ มันจะสามารถชดเชยความล้มเหลวหรือสูญเสียในอดีตได้
เวลาในอนาคตเปรียบประดุจรถเร็วที่ปราศจากคนขับ
เราควรจะเป็นผู้โดยสารรถคันนั้น หรือเราควรจะเป็นคนขับ เพื่อใช้ประโยชน์จากแรงขับเคลื่อนของมันพาเราไปโน่นไปนี่
ใช้มันให้หมดไปอย่างสำคัญได้ประโยชน์ หรือเราจะเป็นเพียงผู้โดยสารมันจะเป็นอย่างไร
จะไปไหนก็ชั่งหัวมัน ถ้าเราเป็นโชเฟอร์ เราก็จำต้องรู้ถึงกลไกการควบคุม
เราต้องมีจุดหมายปลายทาง เราต้องรู้กฎการใช้รถใช้ถนน แล้วอนาคตซึ่งประดุจรถที่มีความเร็วสูงนั้น
จะให้ประโยชน์แก่เราอย่างมาก
ในฮะดีสของท่านนะบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
ความว่า "คิดประเดี๋ยวเดียว (หรือคิดสักนิด) ดีกว่าทำอีบาดะฮ์เป็นปี"
ให้ความเข้าใจแก่เราว่า เวลาเพียงประเดี๋ยวเดียว หากเราใช้เป็น ดีกว่าเวลาเป็นปี
ๆ ถ้าเราไม่ฉลาดใช้
มนุษย์เป็นจำนวนมากได้รับความขาดทุน ทั้ง ๆ
ที่พระเป็นเจ้าได้ให้สิทธิในเรื่องการเป็นเจ้าของเวลา ต่อชั่วโมง ต่อวัน
ต่อเดือน และต่อปีเท่า ๆ กัน
อัล-กุรอานกล่าวว่า ความว่า "ขอยืนยันต่อเวลาก่อนค่ำ
แท้จริงมนุษย์นั้นอยู่ในภาวะขาดทุน นอกจากผู้ที่ศรัทธา และปฏิบัติความดี
และผู้ที่ตักเตือนเป็นในสัจธรรม และเป็นขันติธรรมเท่านั้น"
เมื่อธุรกิจการใช้เวลามีทั้งขาดทุนและกำไรและเป็นธุรกิจของเราทุกคน
ไม่ว่าเราจะเป็นใคร ขอเพียงให้รู้ตัวเองว่าเราเป็นใครเท่านั้น เราก็คงจะบริหารธุรกิจของเราให้มีผลกำไรและพยายยามบริหารให้มีกำไรมากที่สุด
อัล-กุรอานโองการนี้บอกเราชัดเจนครับว่า จะต้องบริหารอย่างไรจึงจะไม่ขาดทุนในธุรกิจสำคัญนี้