ข่าว
วิสัยทัศน์
ประวัติ โรงเรียน
สหกรณ์โรงเรียน





     
  วาเลนไทน์ วัฒนธรรมที่เหลวแหลก หรือดีงาม

หากเกาะขอบโลกส่งท้ายสัปดาห์ในวันนี้ไม่กล่าวถึงเรื่องวันวาเลนไทน์คงไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีเรื่องน่าสนใจเรื่องอื่นๆ อย่างเรื่องระเบิด 2 ครั้งซ้อนในอิรัก พวกชาวอิรักที่คิดก่อกบฏไปถวายตนร่วมรับใช้สหรัฐเสียชีวิตไปกว่า 100 คน หรือแม้แต่เรื่องอาวุธทำลายล้างสูงของอิรักที่ถูกในเป็นข้ออ้างหลักในการก่อสงครามยึดครองแผ่นดินของชาวอิรัก แต่พอยึดครองแผ่นดินของชาวอิรักมากว่า 10 เดือน(เริ่มก่อสงครามเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2546 แบกแดดตกเป็นอาณานิคมของสหรัฐ 9 เมษายน 2546) แต่ก็ยังหาอาวุธร้ายแรงใดๆ ในอิรักไม่พบ ทำให้ล่าสุดรัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐอย่างนายโดนัล รัมสเฟลด์ ออกมาอ้างอย่างหน้าตาเฉยว่า "ผมจำไม่ได้ว่า เคยพูดว่าอิรักมีอาวุธทำลายร้ายแรงไว้ในครอบครอง" นับเป็นคำพูดที่ด้านทนไร้ซึ่งความละอายเป็นอย่างมาก หรือแม้แต่เรื่องที่สภาผู้แทนราษฏรของฝรั่งเศสผ่านร่างกฏหมายการห้ามการคลุมฮิญาบแล้ว แต่ก็ยังไม่ประกาศใช้เป็นกฏหมายเนื่องจากต้องรอส่งร่างดังกล่าวในขึ้นพิจารณาในสภาสูงก่อนโดยคาดว่าจะมีการเร่งรัดให้กฏหมายนี้ออกมาเร็วที่สุด และถึงอย่างไรเรื่องที่น่ากลัวที่สุดในตอนนี้คือเรื่องราวของวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันที่มีการผิดประเวณี (ซีนา) อย่างแพร่หลาย วันเสียความบริสุทธิ์ของเด็กสาวทั้งหลาย และวันที่มุสลิมหลายคนตกศาสนาเพราะหลงไหลไปกับความเหลวแหลกของศาสนาบางศาสนาจนทิ้งศาสนาของตนเอง

หากจะกล่าวถึงในเรื่องของสถิติของการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น ที่มีการทำสำรวจขอคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และเอแบคโพล เรื่องความคิดเห็นเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์และพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นในวันวาเลนไทน์ เปรียบเทียบกันระหว่างระบบการศึกษาสายสามัญ หรือมัธยมปลาย กับสายอาชีพ หรือ ปวช. พบว่า นักเรียนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อายุเฉลี่ย 16 ปี โดยนักเรียนชายมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อายุเฉลี่ย 15 ปี ส่วนนักเรียนหญิงมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อายุเฉลี่ย 16 ปี กลุ่มวัยรุ่นนักเรียน ม.ปลาย และ ปวช. นิยมมีเพศสัมพันธ์กันเองมากขึ้น โดยจะเห็นได้ว่า การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ของนักเรียนส่วนใหญ่ จะมีกับแฟน คนรัก เพื่อน หรือเพียงแค่คนรู้จัก โดยการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนครั้งแรกส่วนใหญ่ ร้อยละ 78.6 เกิดจากความเต็มใจ และวัยรุ่นส่วนใหญ่มีความตั้งใจที่จะไปกับแฟนหรือคนรักในวันวาเลนไทน์ โดยกิจกรรมที่ตั้งใจจะทำมากที่สุด ร้อยละ 44.1 เป็นการร่วมงานวาเลนไทน์ที่จัดขึ้นตามห้างสรรพสินค้า รองลงมาไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยว หรือต่างจังหวัด อันดับ 3 อยู่ตามลำพังกับคนรักในช่วงค่ำคืน สังสรรค์กับครอบครัว และสุดท้ายตั้งใจที่จะไปมีเพศสัมพันธ์กันโดยตรงมากถึงร้อยละ 17.3

จากผลสำรวจข้างต้นก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีว่า วันที่ใครๆ อ้างกันว่าเป็นวันแห่งความรัก วันที่คนส่วนใหญ่หลงไหลไปกับประเพณี วัฒนธรรมที่เหลวแหลกของชาวตะวันตก และเป็นเรื่องน่ากลัวมากหากมีมุสลิมไปหลงไหลกับสิ่งเหล่านี้ไปด้วย เนื่องจากวาเลนไทน์เป็นวันสำคัญทางศาสนาคริสต์ในยุคปัจจุบัน โดยมีความเชื่อกันว่า เซนต์วาเลนไทน์เป็นผู้พลีชีพเพื่อศาสนาคริสต์ ซึ่งถูกประหารชีวิตในกรุงโรม เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณ ค.ศ. 269 และวาเลนไทน์เริ่มขึ้นโดยชาวโรมันเชื่อกันว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันเริ่มต้นของการผสมพันธุ์ของนก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความเชื่อที่มีพื้นฐานทางศาสนาทั้งสิ้น และหากมุสลิมเข้าไปร่วมในงานดักล่าว ก็เท่ากับว่าเขาเชื่อถือ และศัทธาในศาสนา และพระเจ้าอื่นนอกจากอัลลอฮฺ โทษของมันก็เทียบเท่ากับการทำซีริก ซึ่งน่ากลัวมากหากเราหลงไหลไปกับมัน

โดย : มุสลิมรอบโลก


 
     
ติดต่อ webmaster : dee_krabz@hotmail.com          © Khundee Lamsub (ขุนดี หลำสุบ)
ม.4/3
ม.4/2
ม.4/1
ม.3/4
ม.3/3
ม.3/2
ม.3/1
ม.2/4
ม.2/3
ม.2/2
ม.2/1
ม.1/4
ม.1/3
ม.1/2
ม.1/1